การแต่งงานในศาสนาอิสลามมีความหลากหลายและมีความเฉพาะเจาะจงตามภูมิภาคและวัฒนธรรมของแต่ละชุมชน แต่ทั่วไปแล้ว มีความเป็นระเบียบและเน้นความสำคัญในการเคารพศาสนาและประเพณีของศาสนาอิสลามในทุกขั้นตอนของพิธีแต่งงาน
พิธีแต่งงานอิสลาม หรือที่เรียกว่า “นิกะห์” มีขั้นตอนและประเพณีที่แตกต่างกันไปตามภูมิภาคและวัฒนธรรมของแต่ละชุมชน ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
- การสู่ขอ
ฝ่ายชายจะต้องไปสู่ขอฝ่ายหญิงจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองของฝ่ายหญิง โดยมีญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายชายไปด้วย
- การตกลงสินสอด
ฝ่ายชายจะต้องตกลงเรื่องสินสอดกับฝ่ายหญิง สินสอดเป็นสิ่งของหรือเงินที่ฝ่ายชายมอบให้ฝ่ายหญิง เพื่อเป็นหลักประกันในการครองชีวิตคู่ ในบางที่ ผู้ชายจะเลือกคู่สาวและมีการประชุมครอบครัวเพื่อตกลงเรื่องของสินสอดและข้อตกลงต่างๆ ก่อนที่จะดำเนินการต่อไปในขั้นตอนอื่นๆ
- การทำสัญญาการแต่งงาน
มีการทำสัญญาการแต่งงาน หรือที่เรียกว่า “อักดุนิกะห์” โดยมีโต๊ะอิหม่ามหรือผู้รู้ศาสนาเป็นผู้นำ สองฝ่ายจะต้องทำการลงนามในเอกสารทางกฎหมาย เพื่อยืนยันความตกลงและข้อกำหนดต่างๆ เกี่ยวกับการแต่งงาน
- พิธีรดน้ำสังข์
เป็นพิธีกรรมแบบไทยที่นิยมนำมาประกอบในงานแต่งงานอิสลาม โดยญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายจะรดน้ำสังข์เพื่ออวยพรให้คู่บ่าวสาว
- การเลี้ยงฉลอง
มีการเลี้ยงฉลองงานแต่งงาน โดยมีอาหารและเครื่องดื่มบริการแก่แขกผู้มาร่วมงาน
รายละเอียดเพิ่มเติม
- ในพิธีนิกะห์ ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะต้องอยู่แยกกัน โดยฝ่ายชายจะอยู่ห้องหนึ่ง และฝ่ายหญิงจะอยู่อีกห้องหนึ่ง
- ฝ่ายชายจะต้องมอบสินสอดให้กับฝ่ายหญิงก่อนที่จะเริ่มพิธีนิกะห์
- ในพิธีนิกะห์ โต๊ะอิหม่ามหรือผู้รู้ศาสนาจะอ่านบทอัลกุรอานและกล่าวโอวาทเกี่ยวกับการครองชีวิตคู่
- หลังจากพิธีนิกะห์เสร็จสิ้น ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงถือว่าเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม